การเล่านิทานให้เด็กๆฟังนั้นอาจจะดูเป็นเรื่องเก่าตอนสมัยเรายังเด็กๆกันเลยทีเดียว คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะมองว่าเป็นการเสียเวลาเปล่าๆในยุคที่อินเตอร์เข้าถึงทุกพื้นที่ แต่รู้กันไหมเพียงแค่เมื่อเวลาเราชวนหนูๆมานอนนั่งข้างๆเรา รับฟังเสียงที่เหล่าเปล่งเสียงพร้อมกับหนังสือภาพนั้น จะเป็นช่วงเวลาที่ให้เด็กๆได้ใช้จินตนาการอันแสนไร้ขีดจำกัดของเด็กๆเข้าสู่โลกแห่งนิทานด้วยตัวเขาเอง
เพราะการพัฒนาการของเด็กๆไม่ได้มาจากของเล่นเสริมพัฒนาการ หรือหนังสือเรียนเท่านั้น การพัฒนาการด้านอารมณ์และจินตนาการเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในวัยเล็กๆของเขา มีหลักฐานยืนยันต่างๆมากมายว่าการนั่งเล่านิทานให้ลูกฟังสามารถส่งเสริมพัฒนาการของลูกๆได้ นี่ยังไม่รวมช่วงเวลาเล็กๆน้อยๆที่เราสามารถสานสัมพันธ์กันในครอบครับให้แน่นแฟนอีกด้วยนะ! ดังนั้นวันนี้ Fun-D เลยขอหยิบนิทานอมตะที่ไม่ว่านานเท่าไหร่ก็ไม่ตกยุคมาให้คุณพ่อคุณแม่ได้ฝึกเล่าให้เด็กๆฟังกันจ้า
1. สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้ง 7
สโนว์ไวต์คือเจ้าหญิงแสนงามผู้ถูกราชินีใจร้ายกลั่นแกล้งให้ทำงานหนักเพราะเกรงว่าสโนว์ไวต์จะงดงามกว่านาง (หลังจากพ่อแม่ที่ตายไป) ทุกวันราชินีจะเฝ้าถามกระจกวิเศษว่าใครงามเลิศในปฐพี และกระจกก็จะตอบกลับว่าพระนางงดงามที่สุด ซึ่งลึกๆแล้วนางกลัวเป็นอย่างมากเมื่อสโนวไวท์ขึ้นเป็นราชินีจะงดงามกว่าพระองค์ จึงถูกสโนว์ไวต์องค์ราชินีปองร้ายและต้องหนีไปในป่าลึก พลัดหลงเส้นทางจนได้เข้าไปพำนักหลบภัยอยู่ในกระท่อมเล็กที่มีคนแคระทั้ง 7 เป็นเจ้าของ
นิทานที่สุดโด่งดังนี้ ดังไปทั่วทั้งโลกพล็อตเรื่องที่น่าสนุกค้นหาติดตาม เอาใจคอยช่วยเหลือเจ้าหญิงน้อยสโนว์ไวท์ อีกทั้งยังมีเวอร์ชั่นการ์ตูนจากดิสนีย์ให้สามารถรับชมหลังจากที่คุณพ่อคุณแม่เล่าให้เด็กๆฟังอีกด้วยนะ
เหมาะสำหรับอายุ ประมาณ 7 – 12 ปี
2. อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ
หนึ่งในเรื่องเล่าจาก นิทานชุดพันหนึ่งราตรี (One Thousand and One Nights) หรือที่เรียกกันในอีกชื่อว่า นิทานอาหรับราตรี (The Arabian’s Night) เรื่องที่มีโครงเรื่องราวว่า เด็กหนุ่มผู้อาภัพโดนหลอกให้ไปทำงานอันตราย เพื่อนำสิ่งของสิ่งนึงออกมามาจากนั้นถูกหักหลัง แต่ทว่าสิ่งที่เขาต้องเอาออกมานั้นแท้จริงแล้วเป็นตะเกียงวิเศษที่สามารถดลบันดาลหวังใดๆให้เป็นจริงได้
ซึ่งเวอร์ชั่นที่สนุกสนานที่สุด และสุดคุ้นตาก็น่าจะเป้นเวอร์ชั่นยักษ์สีฟ้าและอะลาดินที่มาพร้อมกับพรมวิเศษแล้วเจ้าลิงจ๋ออาบู พร้อมการผจญภัยเพื่อพิสูจน์รักแท้กับเจ้าหญิง ในเวอร์ชั่นของดิสนีย์นั่นเอง คุณพ่อคุณแม่สามารถเตรียมเรื่องราวให้พร้อมและเข้าสู่โลกแห่งอาหรับราตรีกับน้องๆกันได้เล
เหมาะสำหรับอายุ ประมาณ 7 – 12 ปี
3. หนูน้อยหมวกแดง
กาลครั้งหนึ่ง ณ หมู่บ้านที่แสนอบอุ่น มีเด็กหญิงหน้าตาน่ารักนั่งเล่นดูคุณแม่ทำอาหารอยู่ในครัว เพื่อนบ้านทุกคนต่างพากันเรียกเธอว่า “หนูน้อยหมวกแดง” ตามสีของหมวกที่เธอใส่เป็นประจำ และวันนี้เธอก็ได้รับคำสั่งจากคุณแม่ ให้นำอาหารและขนมไปเยี่ยมคุณยายซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านข้าง ๆ
ร่วมเป็นหนึ่งในการให้กำลังใจในการเดินทางของ”หนูน้อยหมวกแดง” ที่ต้องเดินทางตามคำสั่งและคำแนะนำของคุณแม่ในการออกไปเยี่ยมคุณยายที่บ้านกลางป่าตามลำพัง ผจญกับหมาป่าเจ้าเลห์ที่ประสงค์ร้ายกับหนูน้อยหมวกแดง พร้อมทั้งแง่คิดดีๆเนื้อเรื่องง่ายกระชับเหมาะสำหรับเด็กๆเป็นอย่างมาก
เหมาะสำหรับอายุ ประมาณ 4 – 6 ปี
4. เด็กเลี้ยงแกะกับหมาป่า
“Liars are not believed even when they speak the truth.”“ผู้ที่กล่าวเท็จจะไม่ได้รับความเชื่อถือไว้ใจ …ถึงแม้ว่าเขาได้พูดความจริงก็ตาม” การโกหกเป็นสิ่งที่ไม่ดีเรื่องนี้เราได้รับการสอนตั้งแต่เล็กๆ และการสอนให้กับเด็กๆได้รู้ถึงความแย่ของการโกหกบ่อยๆนั้น วิธีที่ดีอีกวิธีนึงก็คือการใช้นิทานเป็นสื่อการสอน
เรื่องราวว่าด้วยเด็กที่ได้รับผิดชอบเลี้ยงแกะอยู่ในหมู่บ้านหมู่บ้านหนึ่ง เพราะการเลี้ยงแกะมันค่อนข้างน่าเบื่อจึงทำให้อยากเล่นสนุกด้วยการแกล้งชาวบ้านว่า “ช่วยด้วย มีหมาป่าจะจับแกะกิน” ทำให้ชาวบ้านตกใจเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือมาช่วยเหลือเด็กหนุ่ม แต่ก็พบว่าจริงๆแล้วไม่มีอะไร ชาวบ้านเสียเวลาเสียอารมณ์และความตั้งใจที่จะช่วยเหลือ โดนเด็กประจำหมู่บ้านหลอก และจนกระทั่งเมื่อมีเหตุการณ์หมาป่ามาจริงๆ ทำให้ชาวบ้านไม่มาช่วยเพราะคิดว่าเป็นเรื่องโกหก ทำให้เด็กเลี้ยงแกะนั้นเสียแกะไปทั้งฝูงเลยทีเดียว
เหมาะสำหรับอายุ ประมาณ 4 – 6 ปี
5. พินอคคิโอ
เหมาะสำหรับอายุ ประมาณ 7- 12 ปี
หุ่นไม้จอมโกหก พินอคคิโอที่เมื่อยิ่งโกหกก็จะยิ่งจมูกยาวกับความต้องการที่จะใช้ชีวิตในฐานะเด็กมนุษย์น้อยคนนึง มีเนื้อเรื่องที่แสนสนุกสอนใจได้เป็นอย่างดี ทั้งในเวอร์ชั่นการ์ตูนแบบต่างๆ พร้อมที่จะให้เด็กๆได้เรียนรู้ไปกับเจ้าหุ่นไม้ตัวน้อยตัวนี้แล้วเรื่องราวว่าด้วย มีชายชราผู้หนึ่งเป็นช่างไม้ ชื่อว่า เจพเพทโต เขาอยู่ตัวคนเดียวในบ้านไม้หลังเก่า โดยไม่มีทั้งภรรยาและลูก อยู่มาวันหนึ่งเจพเพทโตรู้สึกเหงา และนั่งคิดเล่น ๆ ว่าถ้ามีลูกชายสักคนก็คงจะดีไม่น้อย ด้วยเหตุนี้เขาจึงสร้างหุ่นกระบอกเด็กผู้ชายที่ทำจากไม้ขึ้นมาหนึ่งตัว และด้วยควาดีที่มีมาอย่างยาวนานทำให้นางฟ้าประทานชีวิตให้กับหุ่นกระบอก เพื่อเป็นของขวัญแก่ช่างไม้ แต่เพราะความไร้เดียงสาของพินอคคิโอ ทำให้หลงกับกิเลศในเมืองและพลัดหลงจนทำให้ เจพเพทโตต้องออกเดินทางตามหา
การอ่านนิทานให้ลูกฟังเป็นประจำ ช่วยให้เด็กมีการพัฒนาทั้งร่างกายเช่น การฟัง การดู การวิเคราะห์ ภาษา รวมไปถึงความคิด จินตนาการ พัฒนาทั้ง EQ และ IQ พร้อมๆกัน และยังสานสัมพันธ์พ่อ แม่ ลูกไปในเวลาเดียวกันอีกด้วย