ผ้าอ้อม นับว่าเป็นหนึ่งในของใช้ที่สำคัญสำหรับทุกครอบครัวเมื่อมีสมาชิกใหม่อย่างเจ้าตัวตัวน้อยเข้ามา ในท้องตลาดทั่วไปนั้น มีผ้าอ้อมให้เลือกซื้อกันอย่างมากมาย โดยมีทั้งแบบผ้าและแบบสำเร็จรูป ด้วยความหลากหลายนี้เอง จึงอาจทำให้ตัดสินใจลำบากว่าควรเลือกซื้อแบบไหนดี ดังนั้น ครั้งนี้เราจึงมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับผ้าอ้อมมาช่วยประกอบการตัดสินใจว่าควรเลือกแบบไหนมาฝากกัน
ผ้าอ้อมแบบผ้ากับแบบสำเร็จรูป ควรเลือกอันไหนดี
ต้องบอกว่าทั้ง 2 ประเภทนั้นล้วนมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป ผ้าอ้อมแบบสำเร็จรูปจะโดดเด่นตรงที่มีความสะดวกสบายในการใช้งานมากกว่าแบบผ้า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่านั่นเอง ในทางกลับกัน ผ้าอ้อมแบบผ้าจะมีราคาที่ถูกและเอื้อมถึงง่ายกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงในเรื่องการเกิดผื่นผ้าอ้อมของลูกน้อยได้เช่นกัน
ในการเลือกผ้าอ้อมนั้น มีปัจจัยต่าง ๆ ที่พ่อแม่ต้องพิจารณาและคำนึงอย่างถี่ถ้วน โดยปัจจัยเหล่านั้นมีดังต่อไปนี้
ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ผ้าอ้อมแบบสำเร็จรูป จะมีปัญหาในเรื่องของการใช้เวลาย่อยสลายที่นานหลายปี เนื่องจากวัสดุที่ใช้ในการผลิตนั้นย่อยสลายตามธรรมชาติเองได้ไม่ค่อยดี
ส่วนผ้าอ้อมแบบผ้านั้น เนื่องจากผลิตมาจากต้นฝ้าย ทำให้มีการใช้ยาฆ่าแมลงในปริมาณมาก ซึ่งส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศพอสมควร และในการทำความสะอาดผ้าอ้อมประเภทนี้ มีการใช้ปริมาณน้ำและไฟฟ้าระดับหนึ่งเลย แต่เมื่อมองแบบภาพรวมแล้ว ผ้าอ้อมแบบผ้าอาจส่งผลกระทบน้อยกว่าแบบสำเร็จรูปเลยทีเดียว
การใช้งาน
ถ้าหากเทียบเรื่องความสะดวกสบายในการใช้งานแล้ว ผ้าอ้อมสำเร็จรูปนับว่ามีโดดเด่นด้านนี้อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะในเรื่องปริมาณการซึมซับที่ทำได้มากว่า การใช้งานเสร็จแล้วทิ้งได้เลยโดยไม่ต้องซัก ทำให้อำนวยความสะดวกในสถานการณ์เดินทางไกลได้เป็นอย่างดี
ปัญหาสุขภาพ
ลูกน้อยบางคนอาจเกิดอาการแพ้สารบางอย่างในผ้าอ้อมสำเร็จรูปได้ ดังนั้น พ่อแม่สามารถป้องกันปัญหานี้ได้โดยการหลีกเลี่ยงการเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีส่วนประกอบของคลอรีน กาว น้ำหอม และสีย้อมผ้า
นอกจากนี้ พ่อแม่ควรระวังเรื่องความเปียกชื้นจากการใส่ผ้าอ้อม ไม่ว่าจะเป็นแบบผ้าหรือแบบสำเร็จรูปก็ตาม ทั้ง 2 ประเภทล้วนมีความเสี่ยงในการเกิดผื่นคันได้
นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าผ้าอ้อมสำเร็จรูปจะสามารถดูดซึมของเหลวได้ในประมาณมาก แต่เมื่อลูกน้อยถ่ายอุจจาระเมื่อไร ก็ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมผืนไหมทันที
การเลือกซื้อผ้าอ้อม
ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
- วัยแรกเกิด
ควรเลือกซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีความยืดหยุ่นสูง เพราะทารกแรกเกิดมีพัฒนาการด้านการเจริญโตค่อนข้างเร็ว และอาจเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีขอบเอวเว้าตรงสะดือ เพื่อป้องกันสายสะดือของลูกน้อยที่ยังไม่หลุดเสียดสีกับผ้าอ้อม นอกจากนี้ ทารกวัยแรกเกิดมักจะถ่ายบ่อย ทำให้ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมวันละหลายครั้ง จึงอาจไม่จำเป็นต้องเลือกผ้าอ้อมที่ดูดซับได้มากเสมอไป - 5-8 เดือน
เด็กวัยนี้สามารถรับประทานอาหารเนื้อหยาบได้แล้ว จึงทำให้มีปริมาณของเสียมากกว่าทารกวัยแรกเกิด ดังนั้น ควรเลือกผ้าอ้อมที่มีความกระชับพอดีตัวกับลูกน้อยและมีขอบป้องกันการรั่วซึม แต่หากมีปัญหาเรื่องการรั่วซึมขณะลูกนอนหลับ ควรเลือกซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับใช้ตอนกลางคืนเนื่องจากมีประสิทธิภาพในการซึมซับมากเป็นพิเศษ - 9 เดือน ถึง 2 ปี
เด็กวัยนี้เริ่มคลานและเดินได้แล้ว จึงควรเลือกผ้าอ้อมที่มีความยืดหยุ่นและมีแถบกาวแน่นเป็นพิเศษ เพื่อให้ลูกน้อยเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว และควรเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการเกิดผื่นผ้าอ้อม - 2 ปีขึ้นไป
เด็กในช่วงวัยนี้จะเริ่มควบคุมการขับถ่ายได้บ้างแล้ว พ่อแม่อาจลองให้เด็กฝึกการขับถ่ายในห้องน้ำและถอดผ้าอ้อมเองเมื่อต้องการอุจจาระหรือปัสสาวะ แต่ในบางครั้งลูกอาจไม่ให้ความร่วมมือในการนั่งโถส้วมหากยังใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปอยู่
ผ้าอ้อมแบบผ้า
เนื่องจากผ้าอ้อมแบบผ้ามีหลายประเภท และมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ดังนั้น พ่อแม่ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานกับลูกน้อย โดยผ้าอ้อมแบบผ้านั้นมีดังต่อไปนี้
- ผ้าอ้อมแบบเย็บสำเร็จรูป
ผ้าอ้อมประเภทนี้ทำมาจากผ้าฝ้าย สามารถใช้ได้เลยโดยไม่ต้องพับก่อนใช้ ราคาถูก ใช้งานง่าย ป้องกันการรั่วซึมได้เป็นอย่างดี และใช้งานได้นาน - ผ้าอ้อมรูปทรงคล้ายผ้าอ้อมสำเร็จรูป
ผ้าอ้อมแบบนี้เหมาะสำหรับการใช้ในตอนกลางคืน เพราะเจ้าตัวน้อยมักถ่ายในปริมาณมาก โดยรูปทรงของผ้าอ้อมจะคล้ายกับผ้าอ้อมสำเร็จรูป ซึ่งถูกออกแบบและตัดเย็บให้ส่วนเว้าโค้งมีขนาดพอดีกับขาของเด็ก และช่วยป้องกันการรั่วซึมได้ดี - ผ้าอ้อมพร้อมแผ่นซับ
เป็นผ้าอ้อมที่มีแผ่นซับในตัวคล้ายกับผ้าอ้อมสำเร็จรูป โดยสามารถถอดและซักทำความสะอาดได้ง่าย แต่ขนาดของผ้าอ้อมค่อนข้างใหญ่ จึงอาจใช้เวลานานกว่าจะแห้งหลังจากซักทำความสะอาด - ผ้าอ้อมพร้อมแผ่นซับที่สามารถถอดออกได้
ผ้าอ้อมประเภทนี้คล้ายกับผ้าอ้อมพร้อมแผ่นซับ แต่สามารถถอดแผ่นซับและเปลี่ยนแผ่นใหม่ได้ เหมาะสำหรับเจ้าตัวเล็กที่ชอบปัสสาวะหรืออุจจาระในตอนกลางคืน นอกจากนี้ ยังสามารถซักผ้าอ้อมและแผ่นซับแยกกันได้ด้วย ทำให้ไม่ต้องซักผ้าอ้อมบ่อย ๆ แต่มักมีราคาแพงกว่าผ้าอ้อมพร้อมแผ่นซับแบบธรรมดา - ผ้าอ้อมแบบมีช่องใส่
เป็นผ้าอ้อมที่มีลักษณะคล้ายผ้าอ้อมแบบเย็บสำเร็จรูปและผ้าอ้อมพร้อมแผ่นซับ แต่จะมีช่องสำหรับใส่แผ่นเพื่อดูดซับความชื้นอีกชั้นหนึ่ง - ผ้าอ้อมแบบไฮบริด (Hybrid Cloth Diapers)
เป็นผ้าอ้อมที่คล้ายกับผ้าอ้อมพร้อมแผ่นซับที่สามารถถอดออกได้ แต่แผ่นซับของผ้าอ้อมประเภทนี้มีความพิเศษ คือ ไม่มีสารเคมีและสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
การเปลี่ยนผ้าอ้อม
ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
ขั้นตอนการเปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูป มีดังนี้
- ควรเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อม ทั้งผ้าอ้อมสำเร็จรูปชิ้นใหม่และผ้าเช็ดทำความสะอาด หากลูกน้อยมีอายุต่ำกว่า 1 เดือนหรือเป็นผื่นผ้าอ้อม ควรเตรียมสำลี น้ำอุ่น ผ้าขนหนู และครีมรักษาผื่นผ้าอ้อมไว้ด้วย
- ล้างมือให้สะอาด จากนั้นอุ้มลูกวางบนโต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือพื้นเรียบ ใช้มือข้างใดข้างหนึ่งจับขาทั้ง 2 ข้างของเด็กยกขึ้น ค่อย ๆ ดึงแถบผ้าอ้อมแล้วถอดผ้าอ้อมออก
- ใช้ส่วนหน้าของผ้าอ้อมสำเร็จรูปผืนเก่าเช็ดทำความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นของเด็ก โดยให้เช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเท่านั้น จากนั้นใช้ผ้าขนหนูเปียกหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดเบา ๆ จากด้านหน้าไปด้านหลังเช่นเดียวกัน ส่วนทารกแรกเกิดหรือเด็กที่มีผื่นผ้าอ้อม ให้ใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาด และใช้ผ้าสะอาดซับก้นลูกน้อยให้แห้ง
- กางผ้าอ้อมผืนใหม่ออก ใช้มือข้างหนึ่งจับขาทั้ง 2 ข้างของเจ้าตัวเล็กยกขึ้น แล้วค่อย ๆ สอดผ้าอ้อมเข้าไปใต้ตัวลูก พับผ้าอ้อมทบขึ้นมาด้านหน้าแล้วดึงแถบกาวติดผ้าอ้อมให้กระชับพอดี จากนั้นสอดนิ้วมือ 2 นิ้วระหว่างเอวของเจ้าตัวเล็กและผ้าอ้อมเพื่อตรวจดูว่ามีพื้นที่ว่างหรือไม่ เพราะผ้าอ้อมที่แน่นเกินไปอาจทำให้เด็กรู้สึกอึดอัดได้ หากเป็นเด็กทารกให้พับผ้าอ้อมส่วนบนลงมาเพื่อป้องกันสายสะดือเสียดสีกับผ้าอ้อม
- ม้วนผ้าอ้อมผืนเก่าโดยให้สิ่งสกปรกอยู่ด้านในแล้วใช้เทปพันผ้าอ้อมให้เรียบร้อย และอาจใส่ผ้าอ้อมลงในถุงพลาสติกก่อนนำไปทิ้งถังขยะ เพื่อป้องกันการส่งกลิ่นเหม็น
ผ้าอ้อมแบบผ้า
การเปลี่ยนผ้าอ้อมแบบผ้านั้นมีขั้นตอนคล้ายกับการเปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูป โดยบางประเภทอาจมีแถบตีนตุ๊กแกทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็ก แต่บางประเภทอย่างผ้าอ้อมรูปทรงคล้ายผ้าอ้อมสำเร็จรูป อาจต้องใช้ตัวเกี่ยวหรือเข็มกลัดเพื่อรัดผ้าอ้อมให้กระชับ แต่ไม่ควรรัดผ้าอ้อมจนแน่นเกินไป หลังจากเปลี่ยนผ้าอ้อมเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ทิ้งอุจจาระลงในโถส้วม โดยอาจใช้สายชำระฉีดช่วยให้อุจจาระหลุดออกจากผ้าอ้อม จากนั้นจึงแช่ผ้าอ้อมไว้ในถังก่อนซักทำความสะอาด
ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อยแค่ไหน
ทารกจะปัสสาวะประมาณ 20 ครั้ง/วัน ในเดือนแรก ๆ แต่การเปลี่ยนผ้าอ้อมทุกครั้งที่เจ้าตัวเล็กขับถ่ายอาจสร้างความลำบากใจให้พ่อแม่ได้
ดังนั้น ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกน้อยทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง หากเจ้าตัวเล็กหลับอยู่ก็ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมทันทีที่เด็กตื่น เพราะกรดจากอุจจาระอาจทำให้ผิวหนังของลูกน้อยเกิดการระคายเคืองและอาจเสี่ยงเป็นผื่นผ้าอ้อมได้
เลือกซื้อยี่ห้อไหนดี
ในปัจจุบัน มีผ้าอ้อมหลายยี่ห้อที่วางขายในท้องตลาด ทำให้มีตัวเลือกอย่างมากมายในการเลือกซื้อ คราวนี้เราจะมาแนะนำว่ามีผ้าอ้อมเด็กยี่ห้อไหนที่น่าสนใจบ้าง
1 Baby Love รุ่น Smile Pants
จุดเด่น
- ใช้นวัตกรรม Airtech ที่มีลักษณะผิวหน้าคล้ายกับตาข่ายจึงสามารถระบายอากาศได้รอบทิศทาง ไม่รู้สึกอับชื้นหรืออึดอัดในขณะสวมใส่
- มี Smart Gel เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการซึมซับ และช่วยป้องกันผดผื่นที่อาจเกิดจากความอับชื้นได้
- มีขอบขา 2 ชั้นที่ทั้งกระชับรับกับสรีระและช่วยป้องกันการรั่วซึม
- ตัวขอบเอวมีความยืดหยุ่นกระชับกับรอบเอวของเด็ก ทำให้หมดกังวลเรื่องการระคายเคืองผิว
- ผ่านการทดสอบจากบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบการระคายเคืองหรือผื่นแพ้ในผลิตภัณฑ์ (ไม่รวมการแพ้จากการใช้ผ้าอ้อมเป็นระยะเวลานาน)
- สามารถใช้ได้ทั้งเด็กผู้หญิงและผู้ชาย
2 Mammy Poko รุ่น Premium Extra Day
จุดเด่น
- ให้ความแห้งสบาย ไม่อับชื้นได้ยาวนานเพราะมีแผ่น Speed Air Wave จึงมีผิวสัมผัสที่นุ่มสบาย
- มีขอบเอวที่สามารถระบายเหงื่อ 360 องศา ทำให้เด็กไม่รู้สึกร้อน อึดอัด
- ขอบขา 2 ชั้นมีความนุ่มสบายและกระชับ แม้ว่าเด็กจะขยับตัวมากก็ป้องกันการรั่วซึมได้ดี
- มีการแยกดีไซน์ของเด็กชายและหญิงเพื่อให้เด็กสวมใส่และซึมซับได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- มีขนาดให้เลือกถึง XXXL
- มีกล่อง Toy Box ที่สามารถให้เด็ก ๆ เล่นต่อได้หลังจากใช้งานหรืออาจนำมาใช้ประโยชน์อื่น ๆ
3 Merries รุ่น Ultra Jumbo
จุดเด่น
- ให้ความนุ่มสบายเพราะบุนุ่มทั่วทั้งแผ่น
- มีผิวหน้า Wavy ที่ช่วยระบายอากาศได้ดี
- มีแกนตรงกลางช่วยในการดูดซับน้ำ
- มีร่องด้านข้างช่วยในให้น้ำไหลซึมได้อย่างรวดเร็ว แถมยังช่วยล็อกความชื้นไม่ให้ย้อนกลับ ทำให้ตัวผ้าอ้อมไม่ตุงหรือไม่ย้อยเมื่อมีของเหลวในปริมาณมาก
- ขอบเอวมีช่องระบายอากาศช่วยลดความอับชื้น
- ยืดหยุ่นขยายได้มากถึง 2.5 เท่า แต่ยังให้ความกระชับ ทำให้สวมใส่แล้วไม่เลื่อนหลุดง่าย
- มีเทปกาวสำหรับม้วนเก็บผ้าอ้อมหลังจากใช้งานแล้ว เพื่อป้องกันความเลอะเทอะในขณะเก็บหรือการกระจายของเชื้อโรคได้อีกด้วย
4 Huggies รุ่น Gold Soft & Slim Pants
จุดเด่น
- ให้สัมผัสที่นุ่มสบาย
- มีความบางถึง 0.5 เซนติเมตร ทำให้รู้สึกเบา สบาย และให้เด็กเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก
- มีผิวหน้าที่ซึมซับของเหลวได้รวดเร็ว สามารถรองรับการซึมซับได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง
- มีแถบวัดความชื้นให้สังเกตง่าย ๆ เมื่อผ้าอ้อมเต็มแถบจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า
- มีเอวแบบยางยืด ให้ความยืดหยุ่นสูงและกระชับกับหน้าท้องของเด็กเพื่อป้องกันรอยแดง
- ตัวเทปจะมี 3D Poo Pocket เป็นช่องเก็บอุจจาระป้องกันไม่ให้รั่วซึมไปด้านหลัง
- ถูกออกแบบให้มีผิวหน้าที่แห้งเพื่อป้องกันการเกิดผดผื่นใต้ผ้าอ้อม
- รองรับได้ทั้งเด็กชายและหญิง
5 Pampers รุ่น Baby Dry Taped/Pants
จุดเด่น
- เน้นเรื่องความแห้งสบายผิวด้วยผิวหน้าที่แห้งและนุ่ม
- ใช้เทคโนโลยีเมจิเคิลพอดส์ที่ช่วยซึมซับได้ถึง 2 เท่า โดยเมื่อเจอกับความชื้นภายในจะเปลี่ยนสภาพเป็นเจลจึงทำให้รู้สึกแห้งและช่วยป้องกันผดผื่นผ้าอ้อม
- สามารถซึมซับได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง
- มีดีไซน์ที่บางรวมถึงขอบเอวยืดหยุ่นด้วยขอบข้างรูปตัว S ทำให้ขอบเอวมีความยืดหยุ่นสูง ไม่ก่อให้เกิดรอยแดงและกระชับรอบตัวได้เป็นอย่างดี
- ตัวเทปมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถปรับยืดขยายตามตัวเด็กได้ดี ให้ความกระชับแต่ไม่อึดอัด
- มาพร้อมกับเทปสำหรับม้วนเก็บป้องกันการกระจายตัวของกลิ่นและเชื้อโรค
6 Goon รุ่น Premium Mommy Kiss
จุดเด่น
- มีผิวหน้าที่มีส่วนผสมของคอตตอนธรรมชาติ ทำให้เด็กรู้สึกสบาย
- มีแผ่นฟิล์มที่มีรูปร่างตาข่ายสำหรับระบายอากาศภายในผ้าอ้อมได้รอบทิศทาง ทำให้เด็กไม่รู้สึกอับชื้นแม้ผ้าอ้อมจะเต็ม นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันผดผื่นจากการใส่ผ้าอ้อมที่อับชื้นเป็นระยะเวลานาน
- ซึมซับได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง
- มีขอบขาและเอวที่ยืดหยุ่น แต่สามารถกระชับตัวเด็กให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว
- มีทั้งแบบเทปและกางเกง
- แบบเทปมีให้เลือกหลากหลายขนาด ตัวเทปติดแน่นเพราะใช้ตีนตุ๊กแกสามารถแกะเข้า – ออกได้หลายรอบ แบบกางเกงก็มีประสิทธิภาพไม่แพ้กัน
- ทั้งสองรุ่นมาพร้อมเทปกาวสำหรับเก็บผ้าอ้อมหลังใช้งานเพื่อป้องกันไม่ให้สกปรกเลอะเทอะ
7 Cherry baby รุ่น Junior Pants
จุดเด่น
- ใช้เทคโนโลยีการผลิตจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อให้ได้ผ้าอ้อมที่มีความบางและให้ความนุ่มด้วยเส้นใยคอตตอนธรรมชาติ
- สามารถซึมซับของเหลวได้ในปริมาณมากโดยไม่ทำให้ตัวผ้าอ้อมห้อยตุงเพราะใช้วัสดุถึง 2 ชั้น
- มี 3D เทคโนโลยีที่ช่วยให้ซึมซับได้รวดเร็วภายใน 29 วินาที
- มีขอบเอวแบบนุ่มกระชับและยืดขยายได้ถึง 8 เซนติเมตร ทำให้ใส่ได้แม้ว่าน้ำหนักจะเกิน
- มีแผ่นใยตาข่ายเพื่อระบายความอับชื้นได้ถึง 360 องศา
- มีแถบวัดความชื้นเมื่อโดนค่า pH จากของเหลวที่ทำให้สีเปลี่ยน ซึ่งช่วยให้สังเกตได้ง่ายเมื่อผ้าอ้อมเต็ม
- มีการเย็บขอบขาแบบ 2 ชั้นเพื่อป้องกันการรั่วซึมไม่ว่าเด็กจะอยู่ในท่าไหน
- ผ่านมาตรฐานการผลิตจากยุโรป ซึ่งเป็นผ้าอ้อมรายเดียวในประเทศไทยที่ได้มาตรฐาน CE ISO SGS
8 Enfant รุ่น Ultra Soft & Slim
จุดเด่น
- ให้ความแห้งสบายที่มากกว่า
- มีแผ่น Absorbent Pad ซึมซับ 3 ชั้นซึ่งกระจายตัวเร็วและทั่วทั้งแผ่น ทำให้ไม่จับตัวเป็นก้อนจนผ้าอ้อมหนักตุง
- มีความบางและกระชับตัวลูกน้อยได้อย่างดีเยี่ยม
- มี 3D Leaking Guard ที่ช่วยป้องกันการรั่วซึมตามขอบขาและยังให้ความนุ่มกระชับ รวมถึงไม่ก่อให้เกิดรอยแดง
- ขอบเอวระบายอากาศได้ดี
- ผิวหน้าให้สัมผัสที่นุ่มสบาย
- ปราศจากสารคลอรีนหรือสารฟอกขาวบนวัสดุผ้าอ้อม
- มีลวดลายน่ารัก สวมใส่และถอดออกง่าย ไม่ทำให้เด็กรู้สึกอึดอัด
9 Bambies รุ่น Gentle Plus
จุดเด่น
- มีดีไซน์น่ารักลิขสิทธิ์แท้จากประเทศญี่ปุ่น
- อ่อนโยนต่อผิว ไม่ว่าจะเป็นขอบเอวและขาที่มีความนุ่มเป็นพิเศษ
- มีความยืดหยุ่นและกระชับ สามารถปกปิดได้มิด รองรับได้ทุกสรีระของเด็ก
- ซึมซับได้รวดเร็ว ช่วยล็อกของเหลวไม่ให้ไหลย้อนกลับ ทำให้รู้สึกแห้งสบาย และสามารถระบายอากาศได้รอบด้าน
- มีแถบวัดความชื้นที่จะเปลี่ยนสีเมื่อผ้าอ้อมเต็ม
- มีเทปกาวสำหรับม้วนเก็บเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคหรือกลิ่นกระจาย
- สวมใส่ง่าย
10 Huggies รุ่น Little Swimmers
จุดเด่น
- ถูกออกแบบมาสำหรับใส่ลงเล่นน้ำโดยเฉพาะ
- ใช้นวัตกรรมแผ่นซึมซับพิเศษจากประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ผ้าอ้อมไม่บวมเมื่อเปียกน้ำ
- มีการใช้วัสดุพิเศษเพื่อช่วยในการซึมซับของเสียจากการขับถ่ายได้อย่างรวดเร็ว
- มีความกระชับกับขอบขาและเอวของเด็ก ทำให้ของเสียไม่รั่วซึมหรือรั่วไหลออกมาได้
- สามารถปรับกระชับหรือถอดออกได้อย่างง่ายดายด้วยเทปด้านข้างที่มีลักษณะคล้ายกับตีนตุ๊กแก
- เมื่อลงน้ำ เทปจะไม่หลุดออกและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวของเด็ก ช่วยให้เด็กได้เล่นน้ำอย่างสนุกสนานและคล่องตัวโดยที่ไม่ต้องกังวล
ขอขอบคุณข้อมูลจาก